วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

สมัครพ้นสภาพนายกสมัคร

วิบากกรรมชายชราชื่อ"สมัคร"..
นายสมัคร เมื่อมิได้เป็นนายกฯแล้วก็มีสภาพเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งที่จู้จี้ขี้บ่น จุกจิกขี้โมโห ต้องผจญกับวิบากกรรมที่ตัวเองก่อไว้อีกหลายเรื่องคือ คดีหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ และคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทการเลื่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อเช้าวันที่ 12 กันยายน ออกไปเป็นเช้าวันพุธที่ 17 กันยายน 2551 เนื่องจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน(พปช.)บางกลุ่ม และพรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมทำให้องค์ประชุมไม่ครบนั้น มีข้อน่าสังเกตบางประการดังนี้
หนึ่ง
เป็นการสอนบทเรียนแก่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและ ส.ส.กลุ่มเพื่อเนวิน ซึ่งดื้อด้านเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิจะเสนอนายสมัครเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ฟังเสียงต่อต้านคัดค้านจากประชาชน นักวิชาการ นักธุรกิจและกลุ่มองค์กรต่างๆอย่างกว้างขวาง กลุ่มที่คัดค้านเกรงว่า ถ้านายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีกจะสร้างความแตกแยกขัดแย้งทางสังคมอย่างรุนแรงและนำความหายนะมาสู่ระบบเศรษฐกิจและการเมืองได้
สอง เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองบางกลุ่มบางพรรคโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย
โดยพรรคประชาธิปัตย์ฉวยโอกาสเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ แม้จะรู้ว่าไม่มีทางได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง(236 เสียงขึ้นไป) แต่ก็เพื่อฟลุ๊คว่า ถ้าภายใน 30 วันยังไม่สามารถลงมติเลือกบุคคลอื่นเป็นนายกฯได้ด้วยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ก็จะได้เป็นนายกฯทันที(รัฐธรรมนูญมาตรา 173) ทั้งที่ๆก่อนหน้านี้ พรรคชาติไทยได้ตกลงกับแกนนำประชาธิปัตย์บางคนว่า จะไม่เข้าร่วมประชุมสภาเพื่อเพื่อสกัดมิให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีก ทั้งๆที่พรรคชาติไทยอ้างว่า มีมติหนุนพปช. แต่พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนท่าทีในนาทีสุดท้าย โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาเป็นผู้ลงชื่อเข้าร่วมประชุมคนแรกๆของพรรค การกระทำของประชาธิปัตย์ทำให้พรรคชาติไทยมองว่า ประชาธิปัตย์หักหลัง "ส่วนอีกพรรคหนึ่งไม่ต้องพูด ถึงคิดว่าหวานคอแร้ง มั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ แน่ เกมต่อเกมก็ต้องแก้เกมกัน แต่ตอนนี้มันก็จบแล้ว"เป็นหนึ่งในวลีของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยที่กล่าวถึงประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นความรู้สึกได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามแกนนำประชาธิปัตย์อ้างว่า ทำตามกติกาและหน้าที่และเสนอชื่อนายกฯตามสิทธิของพรรคฝ่ายค้าน สำหรับนายสมัคร เมื่อมิได้เป็นนายกฯแล้วก็มีสภาพเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งที่จู้จี้ขี้บ่น จุกจิกขี้โมโห ต้องผจญกับวิบากกรรมที่ตัวเองก่อไว้อีกหลายเรื่องคือ คดีหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม. และการไต่สวนของป.ป.ช.คดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทสมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าราชการ กทม.แม้คดีหมิ่นประมาทเมื่อเทียบกับคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงฯแล้วเบากว่ามาก แต่เป็นคดีที่นายสมัครต้องลุ้นตัวโก่งเพราะศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในวันที่ 25 กันยายนหรืออีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ คดีดังกล่าว นายสมัครและนายดุสิต ศิริวรรณ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ คู่หูตกเป็นจำเลยเพราะกล่าวหาว่า นายสามารถ มีพฤติการณ์ทุจริตในการก่อสร้างโครงการสะพานของ กทม. 16 โครงการ ซึ่งศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง รวม 4 กระทง กระทงละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ก่อนหน้านี้ นายสมัครได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาโดย อ้างว่า ต้องเดินทางไปประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาในวันที่ 21 กันายนในฐานะนายกฯ แต่เมื่อนายสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯแล้ว จึงไม่รู้ว่า ศาลอาญา จะยอมเลื่อนอ่านคำพิพากษาหรือไม่ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร 24 เดือน โอกาสที่นายสมัคร จะต้องถูกจำคุกมีอยู่สูง แม้นายสมัครจะยืนยันว่า สามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาโดยให้อัยการสูงสุดลงนามรับรองให้อุทธรณ์คดีต่อศาลฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้( ป.วิอาญา มาตรา 221บัญญัติว่า ในคดีซึ่งห้ามฎีกาไว้....อธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่า มีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป) อย่างไรก็ตามคดีนี้ เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวที่นายสามารถฟ้องนายสมัครโดยตรง พนักงานอัยการมิได้เกี่ยวข้อง ถ้านายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุดยอมลงนามรับรองให้ จะทำให้เกิดข้อครหาว่า อัยการสูงสุดต้องการช่วยเหลือนายสมัครเป็นการส่วนตัว นอกจากนั้นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ออกระเบียบที่ประชุมใหญ่ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 ว่า ให้ศาลฎีกาอาจไม่รับคดีที่อุทธรณ์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ ถ้าเห็นว่า การอุทธร์ดังกล่าวไม่เป็นสาระอันควรแก่แก่การพิจารณาไว้ในการพิจารณาพิพากษา(ระเบียบที่ประชุมใหญ่ว่าด้วยการไม่รับคดีซึ่งข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงที่อุทธรณ์หรือฎีกาจะไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณาไว้พิจารณาพิพากษา พ.ศ.2551) ดังนั้น ถ้าดูจากคดีหมิ่นประมาทของนายสมัครและนายดุสิตแล้วเห็นว่า ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนทั้งในเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแต่อย่างใด รวมทั้งคำพิพากษามีมีเหตุมีผลชัดเจน การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนถึง 2 ศาล อาจเข้าเงื่อนไขที่ศาลฎีกาอาจไไม่รับคดีไว้พิจารณาได้ ดังนั้น ถ้าศาลฎีกาไม่รับอุทธรณ์ ก็หมายความว่า นายสมัครต้องถูกจำคุกทันที ต้องหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วย นับเป็นกรรมของชายชราที่ชอบสาบถสาบานจนติดเป็นนิสัยและอาจเห็นผลของคำสาบานในบั้นปลายของชีวิต

23 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นใจนะแต่ก็ออกไปก็ดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไปได้ก็ดี เพื่ออะไรจะได้ดีขึ้น

ทีมงานซัลโว กล่าวว่า...

ก็น่าเห็นใจอยู่ครับ เข้ามาช่วงวิกฤติแบบนี้

แต่ก็ถ้าฝีมือดีจริง ก็น่าจะแก้ได้โดยไม่น่าใช้เวลานานแบบนี้

ให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นบ้าง เผื่อจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง

By
Jakawan 4931203018

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นายกมีคดีติดตัว

แล้วจะมาเป็นผู้นำประเทศได้ไงกันละค่ะ


ออกไปรับผิดชอบความผิดก่อนแหละดีแล้ว

สำนึกเมื่อไหร่ค่อยว่ากันนะค่ะคุณสมัคร

ตอนนี้ก็นั่งบ่นอยู่บ้านไปก่อนละกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นายสมัคร เป็นนายก

กระทำสิ่งต่างๆเพื่อตัวเอง

ไม่ใช่เพื่อประเทศชาติ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่มีทางรอดแน่ๆคราวนี้....ชอบสาบานดีนัก


สงสัยไดแก่ตายในคุก----5555



สมน้ำหน้า....โกงชาติดีนัก

4931203117

P&G Thailand กล่าวว่า...

ออกไปก็ดีแล้ว


ลองดูนายกคนใหม่บ้าง


ให้เขาลองพัฒนาประเทศ


เผื่อมันจะดีขึ้น



ID:4931203122

necrogoregod กล่าวว่า...

สมน้ำหน้ามัน...
ทำอะไรก็ต้องได้อย่างนั้นยุแล้ว
แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเป็นด้วยนายกน่ะ
น่าจะรู้ตัวนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกนักการเมืองเก่าๆที่จะมาเป็นนายก

เก็บไปมั่งเหอะแม่งง

เอะอะก็อ้างประสบการณ์

แก่ประสบการณ์

ประสบการณ์คอรัปชั่นสิไม่ว่า

P&G Thailand กล่าวว่า...

ถือว่าประเทศเปงเครื่องมือทดลองของพวกนักการเมืองละกาน ใช้ทดลองนั้นทดลองนี่ ตอนนี้ได้ดูมั้ยผล
ทดลองเปงงายอ่า ขอร้องนะค่ะท่ายนายกท่านใหม่
ช่วยรีบๆพัฒนาด้วย คนไทยจาได้เปงInvestor กะเค้าซักที

4931203087

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเชื่อว่านายกสมัคร ทำดีที่สุดแล้วเพื่อพี่น้องประชาชน แต่มีอุปสรรคมากมาย รวถึงปัญหาต่างๆ และความกดดัน จึงทำให้ทุกๆสิ่งๆทุกๆอย่างเป็นอย่างนี้
ผมว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว

Eakkachai 5131601595

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าเบื่อที่สุดการเมือง

P&G Thailand กล่าวว่า...

ไม่เอาสมัคามาเป็นนายกเเล้วนะ

การเมืองยิ่งจะน่าเบื่อๆมากๆๆเลยยยย

เเย่ๆๆๆๆสมัครนี้เเย่
ไม่ทำอะไรเลยยย นอกจากชิมไปบ่นไป


หาคนที่ดีๆกว่านี้ มาเป็นนายกคนต่อไปเถอะ


4931203090

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โครตเบื่อสมัครเลยยยยยย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สมควรออก

ออกไป ออกไป

"4931203093"

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวไม่เว้นแต่ละวันเลยอะ

แล้วนายกคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้รึเปล่า

Nutcha
4931203182

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะเอาเงินของประเทศไปทำไมมากมาย

นายกคนใหม่ต้องแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ได้ล่ะ

Jirayu
4931203174

Three Kingdoms กล่าวว่า...

ไปเหอะๆ ลุง เผื่อประเทศจะได้เย็นขึ้นมาบ้าง
Natthaporn ID:4931203031

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นนายกที่ ปากจัด
พูดแรงมาก

บางทีดูเหมือนไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่.

Chaloemkhwan 4931203023 กล่าวว่า...

การเมืองไทยเมื่อไหร่จะไปได้ดีกว่านี้
อยากให้รุฐบาลบริหารประเทศให้มีประสิทธฺภาพมากกว่านี้หน่อยว่ามั้นเพื่อนๆๆๆ
แล้วอนาคต....ประเทศเราจะเป็นยังไงหละเนี่ย

Chaloemkhwan 4931203023 กล่าวว่า...

จะว่าไปแล้วลุงหมักแกก็แก่แล้วนะ
อยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่ามั้ยลุง?

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

และแล้วสมัครก็โดนกำจัดจุดอ่อน 555
พ้นสภาพนายกไปซะที
จะได้ให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
Piyaporn 4931203059

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แต่ก็หวังว่านายกคนใหม่จะทำให้ประเทศเราดีขึ้นกว่าเดิมได้นะ คอยดูกันต่อไปว่าการเมืองไทยจะเป็นไปทิศทางไหน
Piyaporn 4931203059